thatsanderskid.com
จากข้อ 4 การกำจัดของเสียในรูปแบบนั้น มีข้อดี คือ.. ก. ทำให้สูญเสียน้ำออกมาน้อยมาก ข. เป็นสารที่ไม่ละลายน้า ทำให้ไม่เกิดการแพร่ไปทำ อันตรายเซลล์อื่น ค. เป็นวิธีที่ง่ายกว่าการขับถ่ายในรูปแบบอื่น ง. ข้อ ก. และ ข. ถูก 7. สัตว์ที่มีความจำเป็นในการสงวนน้ำไว้ในร่างกาย มักกำจัดของเสียจำพวก ไนโตรเจน ในรูปของ แอมโมเนียและกรดยูริก กรดยูริกและยูเรีย 2 แอมโมเนียและยูเรีย กรดยูริกและกรดอะมิโน 8. nephridia มีลักษณะคล้าย nephron มาก แต่ต่างกันที ก. nephron มีขนาดใหญ่กว่า nephridia มาก ข. nephron ดูดน้ ากลับได้ ส่วน nephridia ดูดน้ำกลับ ไม่ได้ ค. nephron สกัดสารพวกยูเรีย ส่วน nephridia สกัด สารพวกยูริก ง. nephron มีเส้นเลือดฝอย glomerulus แต่ nephridia ไม่มี 9. อวัยวะขับถ่ายแบบง่ายที่สุด คือ ก. contractile vacuole ข. flame cell ค. nephridia ง. green gland 10. nephridia ของไส้เดือนดินแตกต่างจาก flame cell ของพลานาเรีย คือ ก. nephridia มีท่อ ส่วน flame cell ไม่มี ข. nephridia สกัดพวกยูเรีย ส่วน flame cell สกัด ของเสียอย่างอื่นๆ มีเส้นเลือดอยู่รอบๆ ส่วน flame cell ไม่มีเส้นเลือด ง. nephridia ไม่มี cilia ส่วน flame cell มี cilia เฉล ย ข้อสอบระบบขับถ่าย 1.
ข. Proximal tubule 3. ค. อัลบูมิน 4. Ascending limb 5. ก's loop 6. ก medulla 7. ค's capsule 8. 2 ส่วนคือ renal tubule และ glomerulus 9. ง artery 10. สีเหลืองใส
ทั้งหมด 5 ข้อ 1 อวัยวะใดทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากเลือด ข. หัวใจ ค. ปอด ง. ลำไส้ใหญ่ 2 อวัยวะใดกำจัดของเสียในรูปของแก๊ส ก. ไต ลำไสใหญ่ 3 ข้อใดคือส่วนประกอบของของเสียในปัสสาวะ น้ำ ยูเรีย น้ำตาล จ. ถูกทุกข้อ 4 ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของลำไส้ใหญ่ ไม่ถูกต้อง ดูดซีมน้ำและแร่ธาตุ ดูดซึมวิตามินบี 12 ที่สร้างจากแบคทีเรียที่อาศัยในลำไส้ใหญ่ ผลักดันกากอาหารเพื่อขับออกทางทวารหนัก ย่อยอาหาร 5 ข้อใดกล่าวถึงหน้าที่ของผิวหนังได้ถูกต้อง ป้องกันเชื้อโรคไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย ควบคุมอุณหภูมิในร่างกาย กำจัดของเสียในรูปเหงื่อ ถูกทุกข้อ
ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ 4. ภายหลังอาหารมื้อเช้าหรือมื้อเย็นควรมีเวลาสำหรับการเข้าห้องน้ำเพื่อขับถ่ายโดยไม่ถูกรบกวน 5. อย่าเพิกเฉยเมื่อมีความรู้สึกปวดอยากขับถ่ายอุจจาระ 6. ตระหนักว่านิสัยการขับถ่ายปกตินั้นมีความแปรปรวนแตกต่างกัน และ 7. เมื่อใดที่นิสัยการขับถ่ายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญหรือเกิดต่อเนื่องยาวนาน ควรปรึกษาแพทย์ กล่าวถึงผลร้ายปลายเหตุไปแล้ว สิ่งที่สำคัญคือ "ต้นเหตุ" โดยสาเหตุของท้องผูกที่พบบ่อย ได้แก่ 1. การรับประทานอาหารที่ไม่สม่ำเสมอ และมีปริมาณเส้นใยไม่เพียงพอ 2. ขาดการออกกำลังกาย (โดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้สูงอายุ) 3. ยาบางชนิด เช่น ยาระงับปวด (โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มยาระงับปวดที่เป็นสารเสพติด), ยาลดกรดที่มีส่วนผสมของอะลูมิเนียมและแคลเซียม, ยารักษาความดันโลหิตสูงบางชนิด (ยากลุ่มยับยั้งแคลเซียม), ยารักษาโรคพาร์กินสัน, ยาต้านปวดเกร็ง, ยาต้านซึมเศร้า, ยาบำรุงที่มีธาตุเหล็ก, ยาขับปัสสาวะ, ยาต้านการชัก 4. การเปลี่ยนแปลงในชีวิตหรือกิจวัตร เช่น การตั้งครรภ์ อายุมาก การเดินทางท่องเที่ยว 5. การใช้ยาระบายที่ไม่ถูกต้อง 6. การละเลยที่จะออกแรงเบ่งเพื่อขับถ่ายอุจจาระ 7. การขาดสารน้ำ 8.
ตอบข้อ ค. เพราะ Loop of Henle เป็นท่อโค้งรูปตัวยูทำ หน้าที่ดูดน้ำกลับมากที่สุดและถูกควบคุมโดยฮอร์โมน ADH จากต่อมใต้สมอง 2. ตอบข้อ ข. คำตอบชัดเจนแล้ว 3. ตอบข้อ ง. เพราะ ทุกข้อแตกต่างกันทั้งสิ้น แต่ที่คล้ายคลึง กันมากที่สุดคือ เฟลมเซลล์และคอนแทรกไทล์แวคิโอล ขับถ่ายน้ำและของเสียอื่นๆโดยมีลักษณะเป็น osmoregulator เหมือนกัน 4. เพราะ พลานาเรียที่อยู่ในน้ำเกลือเจือจาง( 1) จะ มีกิจกรรมของเฟลมเซลล์น้อยกว่าของตัวที่อยู่ในน้ำฝน( 2) เนื่องจากน้ำฝนมีความเจือจางมากกว่าสารละลายภายใน เซลล์ของพลานาเรีย ดังนั้นภายนอกจึงแพร่เข้าไปภายใน เซลล์ของพลานาเรียและน้ำส่วนนี้เฟลมเซลล์ของพลานาเรีย จะต้องก าจัดออก ส่วนตัวที่อยู่ในน้ำเกลือเจือจางอาจไม่ต้องมี การนำส่วนนี้ออกหรือถ้ากำจัดออกก็จะน้อยกว่าตัวที่อยู่ใน น้ำฝน 5. ตอบข้อ ก. เพราะ การกำจัดยูเรียต้องสูญเสียน้ำปนออกมา มากแต่การกำจัด N-waste โดยแก๊สแอมโมเนีย ไม่ต้องเสีย น้ำออกมาเลย ส่วนการกำจัดของเสียในรูปกรดยูริกซึ่งเป็น ของแข็งก็มีน้ำปนออกมาน้อยมากทำให้ร่างกายสูญเสียน้ำ จากร่างกายน้อย 6. เพราะ กรดยูริกเป็นของแข็งทำให้สัตว์พวกนี้ รักษาน้ำได้ดี และสูญเสียน้ำน้อย 7.